วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2551

Team Coma Magazine
















Tah - editor
Moo lex - graphic & columnist
Pug - graphic
Moo yai - photographer & columnist
Mee - photographer

วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2551

JR In The Favelas Of Rio

We've been unabashed fans of JR's for years, but this latest project, shot in the favelas of Rio is our favorite. The manner in which the photographs blend in with the landscape is absolutely stunning.































site : www.woostercollective.com

วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2551

GDFB trailer

วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2551

BaanTeap club and culture phuket























>Logo design Baan Teap club and culture phuket
The club is coming soon...

วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2551

t-shirt gang project 2008
























-เสื้อลายนี้ทำมาลองดูสำหรับโปรเจคที่ตั้งกันเอง ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่มีเสื้อใส่ ไปหาซื้อก็ไม่ถูกใจ จึงคิดทำเองใส่เองเลยหมดเรื่องไป ไม่ได้ทำขายนะคับ คงทำมาจำนวนจำกัดไว้ใส่กันเอง แต่ถ้าอยากได้ที่คิดไว้กับเพื่อนราคาคงสูงนิดนึง ที่คิดไว้คือตัวละ4000บาท แพงละซิ ก็บอกแล้วไม่ได้มีไว้ขาย สนใจติดต่อหลังไมได้ สักพักคงมีลายใหม่ๆของอีกหลายๆคนมาให้ดูกัน

เพียงพอ พอเพียง

ใช้ชีวิตอย่าง "เพียงพอ" เพื่อความสุขที่ "พอเพียง"

Dailynewsแก่นแท้ของชีวิตที่พอเพียงหาใช่การถอยหลังเข้าคลอง หาใช่นิยามความเชย ที่คนรักวัตถุนิยมแอบคิดอยู่ในใจ หากแต่คือการใช้ชีวิตอย่างมีเหตุผล และพอประมาณเพียงความสุขขั้นพื้นฐาน  บางครั้งคนที่ได้ครอบครองกระเป๋าใบละ 5 หมื่น  ก็ไม่ได้บ่งบอกอะไรนอกจากรสนิยมของเจ้าของ (ที่ดีหรือเปล่า?คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง) ผู้คนเดินขวักไขว่สวนกันไปมาอย่างรีบเร่งจนลืมมองท้องฟ้า ลืมมองคนที่เดินผ่าน มองเข้าไปลึก ๆ แล้ว คนเราก็เพียงแค่วิ่งตามความสุขที่อยู่บั้นปลายชีวิตเท่านั้น ด้วยความเชื่อที่ถูกฝังแน่นอยู่ในหัวว่า ชีวิตที่ต้องทำงานและดิ้นรนแก่งแย่งเท่านั้นจึงจะอยู่รอดปลอดภัยในภายภาคหน้า บางคราวัตถุที่เป็นเพียงสัญลักษณ์แห่งความสุขที่มนุษย์อุปโลกน์ขึ้นมา ก็เป็นเพียงแค่ความฉาบฉวยครั้งคราว ลมพัดก็ปลิวไปตามลม นอกจากจะไม่ยั่งยืนอยู่ทนยังมาเอาจิตวิญญาณเราไปด้วย ความสุขที่ยั่งยืนไม่ได้อยู่ไกลจนถึงขนาดต้องวิ่งตาม ทุกอย่างอยู่ที่ใจ เพียงแค่เก็บเกี่ยวและเดินช้า ๆ  เพื่อลองฟังเสียงหัวใจเต้นดูบ้าง ชีวิตที่  ฟูฟ่าที่ว่าดีนักหนานั้น ไม่ใช่วิถีดีที่เหมาะสมอย่างยั่งยืนแต่อย่างใด สุขแบบตูมตามครั้งเดียว แล้วหาไม่ได้อีกเลยตลอดชีวิต หรือจะสู้สุขทีละนิด แต่สุขนาน ๆ ได้  ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตที่เคยหรูหรา มาสู่วิถีสามัญที่ยั่งยืนดีกว่า....

โดยสารอย่างหรูหรา หรือแค่ถึงที่หมาย
หลายคนมีรถยนต์ไว้ใช้งานจริง  ๆ แต่ก็มีอีกหลายคนมีรถยนต์เป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ประดับบารมี  ประโยชน์ของมันที่แท้แค่เพียงส่งเราถึงที่หมายในแต่ละวัน แต่สิ่งที่ต้องแลกคือน้ำมันอันแพงประหนึ่งทองกับมลพิษที่ต้องพ่นระบายออกไปในอากาศ หากมองถึงเพียงประโยชน์และหน้าที่ของรถยนต์  นั่งรถโดยสารประจำทางก็เหมือนกัน ถึงที่หมายได้เหมือนรถยนต์  แม้จะต้องแลกด้วยเหงื่อเพียงเล็กน้อย  และอาจต้องตื่นเช้ามากกว่าเดิม ได้เดินมากขึ้น  แต่สิ่งที่ได้คือ แข็งแรงขึ้น เห็นโลกมากขึ้น เพราะบนรถเมล์มีผู้คนทุกระดับประทับใจ ประหยัดขึ้น ทำให้การจราจรในเมืองหลวงแออัดน้อยลง มลพิษน้อยลง  ขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้าไม่ได้ลำบากยากเข็ญเกินกว่าแรงเราจะรับไหว เป็นเพียงหนึ่งในกิจวัตรประจำวันที่ต้องพบเจอทุกวันเป็นเรื่องธรรมดา

กินแค่อยู่ หรือมีชีวิตอยู่เพื่อเอาแต่กิน
บางคนมีความสุขกับการได้กินของแพง  กินของนอก ทั้งที่รสชาติและคุณค่าไม่ได้แตกต่างกัน ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตกินเพียงอิ่ม แต่ครบถ้วนไปด้วยคุณค่าสารอาหารที่จำเป็นในชีวิต บริโภคอย่างพอเพียง เพื่อให้ชีวิตอยู่ได้อย่างเพียงพอ ของแพงไม่ได้แปลว่าอร่อย ภัตตาคารหรูไม่ได้แปลว่าสะอาดกว่าฝีมือของแม่ ลองปลูกพืชผักสวนครัวกินเองดูบ้าง คุณอาจพบว่า เวลากินผลผลิตจากมือตัวเอง ความภาคภูมิใจนั้น เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดที่หากินที่ไหนไม่ได้ในโลก

ช้อปปิ้งคือชีวิต คิดผิดมหันต์
แต่ละเดือน ๆ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเติมมาในบัตรเครดิต คือการรูดซื้อเสื้อผ้า ของประดับที่ไม่จำเป็นเลย    ในชีวิต ลองพินิจดู  รางวัลชีวิตที่แท้จริงที่คุณควรปรนเปรอตัวเอง ไม่ได้มีอยู่แค่ในห้างสรรพสินค้า ตัดค่าใช้จ่ายในชีวิตที่ไม่จำเป็น ที่รังแต่จะทำให้ชีวิตคุณรกรุงรัง ซื้อของเท่าที่    จำเป็น ไม่ใช่เพียงในยุคน้ำมันแพง แต่ทุกยุคทุกสมัย เรื่องประหยัดเป็นเรื่องฉลาดที่คนเราควรหัดไว้ให้เป็นนิสัย ใช้เงินประหยัด ไม่ได้หมายความว่าไม่มีใช้ แต่หมายถึงใช้เงินให้คุ้มค่า และมีประโยชน์สูงสุด

กลับสู่ธรรมชาติ
ชีวิตฟู่ฟ่าในสังคมเมือง เป็นความโหวกเหวกท่ามกลางความโดดเดี่ยว ต่างคนต่างทำหน้าที่ ขวนขวายแก่งแย่งได้มาแทบบ้าตาย หลายครั้งหลายคนอาจฉุกคิดได้ว่า ตัวตนของคุณไม่ใช่แบบนี้ มองซ้ายเป็นตึก มองขวาเป็นถนนที่เต็มไปด้วยควัน กลับคืนสู่ถิ่นฐานบ้านเกิด หรือลองศึกษาธรรมชาติดูบ้าง แรงบันดาลใจดี ๆ ในการใช้ชีวิตอาจมีมากขึ้น มีคนเคยกล่าวไว้  มนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ กลับคืนเมื่อไหร่ก็ไม่มีวันขวยเขิน

ใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์
มีความคิดสร้างสรรค์เป็นอาวุธทางปัญญา เทรนด์การตลาดที่ร้อนแรง ก็ไม่อาจพรากเอาตัวตนของคุณกลมกลืนไปเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดได้ มีวิจารณญาณในการบริโภค พูดง่าย ๆ คือ เลือกในสิ่งที่ชีวิตคุณต้องการ ไม่ใช่มีคนบอกว่า ชีวิตคุณต้องมีแบบนั้น ต้องการแบบนี้

‘พอใจ’ แล้ว ใจจะพอเพียง
 ภาคภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ คนไทยมีอะไรหลายอย่างที่ต่างชาติไม่มี แม้ในทางกลับกัน เราก็อาจจะไม่มีในสิ่งที่เขาครบครัน ความไม่มีไม่ได้หมายความว่าขาด  บางคราก็อาจจะไม่เหมาะกับวิถีของเรา ระเบิดจากภายใน มองเรื่องเล็ก ๆ ใกล้ตัว แล้วขยายวงสู่เรื่องใหญ่ ๆ ระดับชาติ ชีวิตก็ดำรงอยู่ได้อย่างที่ควรจะเป็น ไม่แก่งแย่ง ไม่แข่งขัน เพียงช่วยเหลือเกื้อกูลกัน บ้านเราทำน้ำพริกอร่อย ก็แบ่งปันให้ข้างบ้าน ขณะที่ป้าข้างบ้าน แกงรสชาติดี ก็แบ่งให้บ้านเราช่วยชิมบ้าง หรือบางทีที่ไม่มีรถยนต์ขับ อาจเป็นเพราะคุณไม่เหมาะกับการขับรถด้วยตัวเอง สินค้าแบรนด์เนมก็อาจไม่เหมาะกับบุคลิกของคุณก็เป็นได้

แก่นแท้ของความสุข ไม่มีขายที่ห้างสรรพสินค้า สั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ตก็ไม่ขาย หัวใจที่เหนื่อยล้า เพราะมัวแต่วิ่งตามหาวัตถุ ก็ไม่มีบริการสปาไว้บำบัด  หากแต่ต้องปลูกรดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ย แล้วความสุขที่แท้และยั่งยืนจะงอกงามตามวิถีธรรมชาติในหัวใจของคุณเอง

หาเรื่องดีดีอ่านได้  http://www.pooyingnaka.com/story/story.php?Category=scoop&No=1358

วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2551

การมาถึงของค่านิยมตะวันตก

เปิดตัวกันอีกแล้วกลับprojectล่าสุดจะเราใจจดใจจ่อกลับสิ่งที่จะเป็นข้อมูลหั้ยไปคิดกัน จากโจทย์ที่ได้ดูเป็นสารคดี3เรื่องเกี่ยวกับผลกระทบต่างๆในปัจจุบันที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนบนโลก เรื่องที่มาเป็นโจทย์(movie)เกี่ยวกับผลกระทบ ส่วนได้ส่วนเสียของการเข้ามาของธุระกิจข้ามชาติ หรือ super store
อย่างในบ้านเราที่รู้จักกันดีก็เช่น Lotus BigC หรือจะเล็กลงมาหน่อยก็ 7eleven ของเรานี่เองผลกระทบของมันมีทั้งข้อดีข้อเสีย มีทั้งได้และเสียผลประโยชน์ แล้วแต่คุณๆจะได้ไปยืนอยู่ตรงจุดไหน ที่เห็นแน่ๆคือร้านค้าปลีกย่อย ร้านโชห่วย โดนไปเต็มๆ เพราะสู้ไม่ได้เรื่องราคาที่ของsuper store ถูกกว่าเนื่องจากกำลังซื้อของsuper store มีมากกว่าจึงซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกมากก จึงขายสินค้าให้เราในราคาที่ถูกกว่าร้านทั่วไป
แต่ประเด็นที่สนใจอยู่ที่การบริโภคที่ได้รับค่านิยมมาจากตะวันตกในบ้านเรา ทั้งเรื่องอาหารการกิน เครื่องแต่งกาย ชีวิตประจำวัน คนเราในสมัยนี้ได้รับค่านิยมจากต่างชาติอย่างมาก การใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย ไม่มีก็ต้องกู้ยืมเพื่อมาใช้จ่าย อย่าง ธุระกิจเงินกู้ที่น่าจะรู้จักกันดีเช่น Aeon ด้วยความอยากได้อยากมีเหมือนคนอื่น ผลกระทบต่างเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเรามาก จนบางครั้งอาจดูเป็นเรื่องธรรมดา หรือบางคนอาจรู้แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจกับผลกระทบอื่นที่ตามมา ไปอ่านเจอในblogเพื่อนมาเลยเอามาลง

พระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณโณ ได้เปิดประเด็นการสนทนาเรื่องเงินกับจิต พระอาจารย์กล่าวว่า เงินให้ความสะดวกสบายแต่จิตให้ความสุข เราจึงควรฝึกจิตเพื่อแสวงหา เราควรให้ความสำคัญกับความสุขในการทำงานมากกว่าความสุขจากผลของงานพิธีกรจึงถามพระอาจารย์ว่า...ความสุขในการทำงานในชีวิตจริงจะทำได้ยากหรือเปล่าคะเพราะการทำงานต้องพบกับปัญหามากมาย พระอาจารย์ตอบว่า ความรับผิดชอบกับความกังวลแตกต่างกัน อยู่ที่เราจะเลือกแบบไหน... ไม่รับผิดชอบแต่กังวล หรือ รับผิดชอบแต่ไม่กังวลพระอาจารย์กล่าวส่งท้ายว่า

Money is not everything...
Money can buy a house but not a home.
Money can buy a bed but not sleep.
Money can buy a clock but not time.
Money can buy a book but not knowledge.
Money can buy food but not an appetite.
Money can buy position but not respect.
Money can buy blood but not life.
Money can buy medicine but not health.
Money can buy sex but not love.
Money can buy insurance but not safety.

วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

comfort zone


patong beach ,phuket
ยังไม่อยากกลับเลย...

วันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

เสดไปหลายสิ่ง เหลืออีกหลายสิ่ง

เพิ่งกลับจากหัวหิน ไปconcert honda fest หนุกดี ไปทันได้ดูน้าจ๊อบ บรรจบพอดี น้าจ๊อบขึ้นเวทีช้าด้วยmcบนเวทีเรียกตั้งนาน สงสัยไปเติมอยู่ คนเยอะมากกกแต่ก็ชิว ฟังเพลงskaไป เมาไป เล่นน้ำไป มันจะมีอะไรดีกว่านี้แล้วฟะ!!! เดี๋ยวได้รูปจากเพื่อนแล้วค่อยมาลงแล้วกัน อยากไปอีก...
กลับมาก็ต้องมาปั่นportfolio 3dเสดไปหมาดๆค่อนข้างชอบนะ ทำเสดไปหลายอย่างก็ยังเหลือต้องคิดอีกหลายอย่างรวมทั้งสุดยอดfinal projectที่มันใกล้เข้ามาแล้ว สู้ฟะ!!!

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

scissors on street


^
^
project Scissors installation street in bu.
อย่าคิดไรมากกเลยขำๆ...

วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2551

skyview


วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2551

hkt - 5.17.03.08


































ได้กลับบ้านซะที เลยชักภาพมาหั้ยดูกัน ไม่ค่อยมีเวลาได้ถ่ายเท่าไหร่ ก็ลองดูกันเล่นๆแล้วกันนะคับ ภูเก็ต กับภาพบรรยากาศเมืองเก่า ( ภูเก็ตร้อนมากกก...จาก เด็กเกาะ )

วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

final micro-MACRO

micro MAcro ในprojectนี้หลายคนก็ได้ทำงานออกมาหลายอย่างก็แล้วแต่เรื่องของแต่ละคนที่หยิบมาทำกันมีทั้งเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างก็เป็นธรรมดานะคับผมว่า!!!แต่ก็พยามยามศึกษาค้นคว้า ปรึกษาเพื่อนบ้างรุ่นพี่บ้าง ก็ได้อะไรกับมาคิดมากมายในหัวบางทีก็หลงออกไปไกลเหมือนกันกว่าจะกลับมาได้ก็เล่นเอาเหนื่อยแต่สุดท้ายสิ่งที่ได้มาก็คุ้มค่ากับการใช้เวลาอยู่กับมันมาจะได้เห็นมันในรูปแบบที่จับต้องได้ซะที...
ของผมที่ทำมาเป็นพื้นที่1ตารางกิโลเมตรที่มีความหนาแน่นของจำนวนประชากรที่ต่างกันไปในแต่ละจังหวัด ยิ่งมีจำนวนของประชากรมากเท่าไหร่พื้นที่ที่แทนจำนวนประชากรก็จะเล็กลงไปตามสัดส่วน ผมจึงทำเป็นการแบ่งช่องสี่เหลี่ยมตามจำนวนประชากรแต่ละจังหวัดที่ได้ดังรูป ส่วนงานชิ้นสุดท้ายที่ส่งไปผมใช้พื้นที่ของกรุงเทพที่มีจำนวนประชากรต่อหนึ่งตารางกิโลเมตรประมาณ3,600คนโดยใช้ภาพถ่ายportraitของคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพจำนวน3,600ภาพสื่อถึงความหนาแน่นที่มีจำนวนมาก และระดับที่ต่างกันของภาพแต่ละภาพคือระดับความเหลื่อมล้ำของฐานะทางสังคมของแต่ละคนที่มาอยู่ร่วมกันในสังคมเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพ
สุดท้ายของprojectนี้ก็ต้องบอกว่าได้อะไรมากมายจากการทำงาน ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีดีจากอาจารณ์ติ๊ก และ อาจารณ์ มะลิบางอย่างอาจจะไม่เข้าใจเท่าที่ควรก็ต้องขออภัยอาจารณ์ด้วยนะครับ...ต่อไปก็ต้องฝึกฝนวิชากันอีกยาวไกลมากก







































































วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2551

ตร.กม

ต่อจากอาทิตย์ที่แล้วmicro-macro ของผมก็คือหน่วยต่างๆที่ใช้ในการกำหนดพื้นที่ ที่เสนอไปก็คือ หน่วยเก็บข้อมูลของคอมพิวเตอร์คือ KB MB GB
ทั้งหมดเป็นไมโครแมคโครในตัวมันเอง ซึ่งแมคโครจะประกอบด้วยไมโครที่เป็นหน่วยย่อยจำนวนหนึ่ง ก็ลองทำเป็นงานออกมา ส่งอาจารย์แล้วก็กลับมาคิดต่อที่อาจารย์บอกว่าสิ่งที่เท่ากันอาจมีอะไรที่ไม่เท่ากัน ก็ลองคิดมาเรื่อยๆ จนมาถึงเรื่องพื้นที่และความต่างของจำนวนประชากร พื้นที่ในที่นี้ก็คือ พื้นที่ต่อตารางกิโลเมตรในของแต่ละจังหวัดในประเทศไทย ซึ่งใน1ตารางกิโลเมตรของแต่ละจังหวัดจะมีความหนาแน่นขอประชากรที่ต่างกัน จึงลองนำเรื่องนี้มาลองดู















^KB MB GB -micro MACRO
1000 KB = 1 MB
1000 MB= 1 GB

วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2551

microMACRO tour

หลังจากปิด tour negative positive ไปก็ทริปไปเที่ยวใหม่ ถ้าทางจะหนทางลำบากไม่น้อยไปกว่าทริปที่แล้ว ครั้งนี้ว่ากันด้วย "micro macro" เป็นสองคำที่กว้างอยู่ แต่ถ้าจะแปลกันง่ายๆก็คือ จุลภาค มหัพภาค
ไมโครก็คือหน่วยย่อย เป็นหน่วยเล็กที่มากๆ
ส่วน macro นั้นก็มีหลายความหมายแล้วแต่จะมองกัน คือโครงสร้างที่มีขนาดใหญ่ หรือคำสั่งที่ประกอบด้วยคำสั่งย่อยหลาย ๆ คำสั่งซึ่งแทนด้วยสัญลักษณ์เพียงสัญลักษณ์เดียว
ในด้านที่ผมลองทำความเข้าใจกับมันคือทั้งสองอย่างมีความเกี่ยวข้องกัน แต่มีความต่างในตัวมันเอง มีทั้งเรื่องของขนาด(size)เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย microเล็กๆจำนวนหนึ่งสามารถรวมตัวกันเป็นหนึ่งหน่วยใหญ่ได้
และหนึ่งหน่วยใหญ่ก็ประกอบด้วยหน่วยย่อยจำนวนมาก แต่การร่วมตัวก็ต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบอื่นๆด้วย

micro - เล็กมาก, จุลภาค, คำที่ใช้นำหน้าคำอื่น มีค่าเท่ากับ 1 /ล้าน เช่น microsecond หรือ ไมโครวินาที ก็เท่ากับ 1 /ล้านวินาที
macro - ขนาดใหญ่, มหัพภาค, โครงสร้างใหญ่ที่ประกอบด้วยส่วนย่อยๆ มากมาย